คนที่มีปัญหา เรื่อง กระดูกสันหลังยุบ ลงมามาก จนหลังโก่งอย่างเห็นได้ชัด มีอาการปวดหลังมาก อาจต้องหาทางรักษาแก้ไข หรือทำการผ่าตัด
เวลาคนเราหกล้ม เอาก้นกระเเทกกับพื้นอย่างรุนเเรง โดยทั่วไปทั้งหมอ เเละผู้ป่วยมักจะไปเพ่งความสนใจอยู่ที่กระดูกก้นกบ ว่ามีการหักหรือไม่ เเต่ในความเป็นจริง เรากลับพบว่า มีการละเลยกระดูกอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งมี ความสำคัญมากกว่า เพราะถ้าไม่ดูแลรักษาให้ถูกต้อง ตั้งแต่ครั้งแรก มักจะส่งผลเสียทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน มากมาย บางคนอาจจะถึงขั้นต้องได้รับการผ่าตัดแก้ไข เสียเวลา เสียเงินทองในการรักษามากกว่าเดิมครับ
ผมกำลังกล่าวถึง กระดูกสันหลังส่วนกลางลำตัว ที่มีโอกาสหักได้บ่อยกว่ากระดูกก้นกบในเวลาที่คนเราล้มลงเอา ก้นกระแทกพื้น โดยเฉพาะคนที่มีภาวะกระดูกบาง คนที่มีอายุมากมาก ลักษณะรูปร่างของกระดูกหักชนิดนี้ ทำให้เราเรียกกระดูกสันหลังหักชนิดนี้ว่า กระดูกสันหลัง ย่น หรือยุบตัวลงไปครับ (Vertebral Compression Fracture : VCF)
เวลาเกิดการลื่นล้ม เอาสะโพกหรือ ก้นกบกระเเทกพื้นอย่างรุนเเรงนั้น จะเกิดแรงกระเเทกส่งต่อไปที่กระดูกสันหลัง โดยเฉพาะส่วนกลางลำตัว จะมีการรับเเรงกระเเทกมากที่สุด กระดูกสันหลังที่ถูกกระแทก จะเหมือนถูกกระแทกทั้งด้านบนจากน้ำหนักตัวที่กดลงมา และด้านล่างจากแรงกระแทกที่พื้น ส่งผลทำให้กระดูกสันหลัง ปล้องนั้น มีการยุบตัวลงมา โดยมักจะเกิดตรงรอยต่อของกระดูกสันหลังส่วนล่างของช่วงอก ต่อกับส่วนบนของหลัง เนื่องจาก กระดูกสันหลังช่วงนี้จะมีการหักเหของเเรง เเละการสะสมเเรงมาที่กระดูกสันหลังมากที่สุด ดังนั้น ถ้าเรามัวแต่สนใจกระดูกส่วนก้นกบ โดยไม่ได้ดูที่หลังด้านบนก็จะทำให้ ไม่รู้ตัวว่ามีการะดูกสันหลังหักแบบยุบตัวที่บริเวณนี้ โดยเฉพาะคนสูงอายุมากกว่า 60 ปี กระดูกสันหลังจะบาง และไม่เเข็งแรงอยู่แล้ว จึงเกิดเเรงกดไปที่ปล้องกระดูกสันหลัง ส่งผลทำให้ความสูงของปล้องกระดูกสันหลังยุบตัวลงมาเหมือนกล้วยถูกเครื่องปิ้งหนีบจนแบนติดกัน
กระดูกสันหลังส่วนนี้ ในคนที่เติบโตเต็มวัย มักจะมีความสูง ประมาณ 2-4 ซมเเต่ถ้าเกิดกระดูกย่น ความสูงเฉลี่ย อาจจะลดลง เหลือเเค่ประมาณ 1 ซม. เเละถ้าเกิดกระดูกย่นในกระดูกสันหลังหลายปล้อง จะทำให้คนสูงอายุ นั้นมีหลังโก่งขึ้น เเต่มีความสูงลดลงไป
อาการของ กระดูกสันหลังยุบ ย่นนั้น โดยทั่วไป ถ้าล้มเอาก้นกระเเทกพื้นใหม่ๆ อาจจะเป็นเพียงเเค่รูสึกจุกเเน่นในท้อง เท่านั้น ซึ่งพอนั่งไปสักพักอาการก็จะหายไปเหมือนไม่ได้เป็นอะไรเลย หรือบางคนอาจมีเพียงเจ็บกลางหลัง ร้าวมาที่บั้นเอวเล็กน้อย เวลาล้มตัวลงนอนจะเจ็บนอนหงายไม่ได้ ซึ่งผู้ป่วยอาจจะไม่ใส่ใจ เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ 1-2 เดือน จะสังเกต สังเกตหลังตัวเองจากกระจกมองด้านข้างของลำตัว อาจพบว่ามีการโก่งเพิ่มมากขึ้น และ อาการปวดหลังที่เรื้อรังอยู่ มีอาการรุนแรงขึ้น
ความสำคัญในการดู เเละรักษาในโรคกระดูกสันหลังย่น จึงต้องขึ้นกับการวินิจฉัยให้ได้ก่อนว่า เกิดการหักแบบยุบตัวของกระดูกสันหลัง หรือไม่ โดนเฉพาะลักษณะการลื่นล้ม เเละเอาก้นกระเเทก ผู้ป่วยจะต้องไม่นิ่งนอนใจเกินไป อย่ารอให้ปวดหลังนานเกิน สัปดาห์ ต้องรีบพาตัวเองไปพบเเพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อ x ray ส่วนของกระดูกสันหลังส่วนนี้ครับ
ถ้าหากพบว่ามีการย่นของกระดูกสันหลังจริง เเพทย์ก็จะเเนะนำให้ท่านพักงานหนัก โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้หลังมาก บางคนเเพทย์ก็อาจจะเเนะนำให้นอนพักอยู่เเต่บนเตียงเฉยๆในช่วงเดือนเเรก เนื่องจากกระดูกย่นนั้น จะยังสามารถยุบเพิ่มมากขึ้นอีก ถ้าเราลุกขึ้นนั่ง หรือยืนบ่อยๆ เพราะน้ำหนักตัวของผู้ป่วย จะเป็นตัวที่กดกระดูกสันหลังให้ย่นมากขึ้นได้ ส่งผลทำให้ปวดหลังมากขึ้น หลังโก่งมากขึ้น บางคนส่วนที่ยุบตัวลงไป อาจจะกดทับเส้นประสาท ทำให้มีอาการของขาชา ปวดร้าวลงแก้มก้น ปวดขาได้ครับ
บางคนที่มี กระดูกสันหลังยุบ ย่นมากตั้งแต่ ครั้งแรกที่มาตรวจ เเพทย์อาจจะเเนะนำให้ใส่เสื้อเกราะรัดหลัง เพื่อประคองหลังไว้ไม่ให้โก่ง หรือยุบตัวมากขึ้น ตรงจุดนี้มีความสำคัญมากครับ เพราะผู้ป่วยมักจะมีความเข้าใจผิด คิดว่า เมื่อมีเสื้อเกราะใส่ ก็สามารถทำงานหนักได้เหมือนเดิม
เนื่องจากแม้ว่าเสื้อสามารถจะป้องกันไม่ให้หลังโก่งมากขึ้น โดยที่มีสายรัดบริเวณจะเป็นตัว ค้ำหัวไหล่ไม่ให้โก่งตัวไปด้านหน้า เเต่ก็ไม่มีความสามารถกันกระเทือนกระดูกสันหลังมากนัก ถ้ามีเเรงมากระเเทกจากการที่เราไม่หยุดนอนพัก จากการทำงาน กระดูกสันหลังของเราก็มีโอกาสจะยุบตัวลงมากขึ้นอีก ยิ่งยุบมาก ยิ่งหลังโก่งครับ ถามว่า จะต้องใส่เสื้อเกราะแบบนี้ นานเท่าไหร่ ก็ต้องรอให้กระดูกสันหลังส่วนที่หักหยุดยุบตัวลงก่อน คือ ต้องรอจนกระทั่งกระดูกส่วนที่หักเริ่มเชื่อมติดกันอย่างสมบูรณ์ ซึ่งส่วนใหญ่ ต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือนครับขอให้อดทน ใส่เสื้อเกราะทุกครั้งที่ลุกนั่ง หรือยืน เเละหยุดพักงานหนักจริงๆ อย่าหลอกตัวเองครับ ประมาณ 3-4 เดือน เมื่อกระดูกติดสนิทดีเเล้ว หลังของท่านก็จะหายปวด กลับมาเป็นคนเก่าที่เเข็งเเรงเหมือนเดิม เล่นกีฬาได้ โดยที่ไม่มีข้อเเทรกซ้อน ครับ
แต่ถ้าบางคนที่มีปัญหา เรื่องกระดูกสันหลังยุบตัวลงมามาก จนหลังโก่งอย่างเห็นได้ชัด มีอาการปวดหลังมาก จนมีข้อบ่งชี้ในการผ่าตัด ก็จำเป็นต้องเลือกวิธีนี้ การใช้วิธีการรักษา แบบผ่าตัดนี้ จะทำให้กระดูกสันหลังส่วนที่ยุบลงเด้งกลับมาสูงเหมือนเดิม หรือใกล้เคียงกับความสูงเดิม
เทคนิคการผ่าตัด แก้ไขกระดูกหัก ย่น โก่ง กระดูกยุบตัว
เทคนิคการผ่าตัด ก็ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละท่านครับ รายละเอียด มีดังนี้
1. การผ่าตัดหลังดามด้วยโลหะ และใช้เทคนิคการผ่าตัด ดีดเอากระดูกส่วนที่ยุบตัวลงมาให้ยืดออกมา ปัจจุบัน (2550) การผ่าตัดด้วยเทคนิคนี้ เป็นวิธีที่มาตรฐาน โดยผู้ป่วยอาจจะต้องเสียเวลา นอนอยู่ที่โรงพยาบาล ประมาณ 5-7 วัน หลังผ่าจะสามารถลุกขึ้นเดินได้ ทำกิจวัตรประจำวันได้ เหมือนปกติ แต่ทำงานหนักมากๆ ยังไม่ได้ครับ เพราะอย่างไร เราก็ฝืนธรรมชาติไม่ได้ ต้องรอให้กระดูกส่วนที่หักติดกันก่อน และต้องมีการฝึกกล้ามเนื้อหลัง อย่างถูกวิธีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้ กล้ามเนื้อหลังลีบลงไป ไม่เช่นนั้นกระดูกสันหลัง และโลหะที่ดามจะทำงานในการรับแรงเคลื่อนไหวของร่างกายมากเกินไป อาจส่งผลทำให้โลหะที่ดามเคลื่อนหลุดไปไดเ ส่วนเทคนิคการฝึกกล้ามเนื้อหลัง ผมจะมาเล่าให้ฟัง ในวันข้างหน้าครับ
2. การฉีดซีเมนต์เข้าไปดันกระดูกสันหลัง (Cement Injection) วิธีนี้จะถูกใช้ในกรณีที่กระดูกสันหลังที่ยุบตัวลงมาแบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรัง โดยพบว่า อาจมีกระดูกสันหลังส่วนที่หักไม่มั่นคง เทคนิคการฉีด ตลอดการเทคนิคจัดท่า จะเป็นตัวทำให้กระดูกส่วนนั้น เด้งออกเองได้เป็นวิธีการพิเศษ การใช้เทคนิคนี้ถือว่า เป็นการผ่าตัดแบบกระทบกระเทือนเนื้อเยื่อภายในน้อย (Minimal Invasive Surgery) ผู้ป่วยจะฟื้นตัวเร็วกว่า วิธีแรกครับ แต่ใช้ไม่ได้กับผู้ป่วยทุกคนนะครับ แพทย์จะเป็นผุ้เลือกเอง
3. การใช้บอลลูนเพื่อดัน กระดูกสันหลังยุบ (Balloon Kyphoplasty) เป็นการผ่าตัดแบบทางเลือก ที่ ไม่ใช่วิธีมาตรฐานทั่วไป แต่ถือว่า เป็นการผ่าตัดกระทบกระเทือนเนื้อเยื่อภายในของร่างกายน้อย (Minimal Invasive Surgery) โดยในขั้นตอนแรกจะมีการสอดใส่เข็มบอลลูนเล็กๆ จากด้านหลังเข้าไปภายในกระดูกสันหลังที่ยุบตัวลงไป และค่อยๆ ดันให้บอลลูนพองตัว เพื่อดันกระดูกที่ยุบ เด้งขึ้นมา จากนั้นก็ฉีดกาวซีเมนต์เข้าไป รอให้ซีเมนต์แข็งตัว กระดูกส่วนนั้น ก็เหมือนมีคอนกรีตที่แข็งแรงคอยดันอยู่ตลอดเวลาที่ เนื้อกระดูกที่คลุมอยู่ภายนอกยังติดกันไม่สนิท ประโยชน์ที่ได้ก็จะคล้ายกัน กับวิธีที่ สอง ตรงที่สามารถแก้ไข รูปร่างหลังที่โก่งให้หายได้ และข้อสำคัญอาจจะลดอาการปวดหลังได้
การป้องกัน และการเรียนรู้ข้อมูลเป็นเรื่องที่สำคัญ สำหรับโรคนี้ครับ ถ้าไม่อยากถูกผ่าตัดหลัง
สบายกายคลายปวดหลังครับ
ขอขอบคุณ รศ.นายแพทย์ประกิต เทียนบุญ หัวหน้าภาควิชาศัลยกรรมกระดูกและข้อ รพ.จุฬา