
แก้ไขขาโก่ง เข่าชิด ด้วยวิธี MHTO technique by Dr.Somsak’s part 1
ข้อเสียของการมีเข่าโก่ง ขาโก่ง เข่าฉิ่ง ขากาง มีหลายอย่างโดยเฉพาะทำให้โครงสร้างร่างกายที่ไม่สมดุล, มีผลทำให้ข้อเข่า และหลังมีการกระเทือนมากกว่าปกติ มีผลทำให้เกิดอาการปวดเข่า และหลังตามมา เข่าที่มีอาการปวดแบบนี้ ถือว่าเป็นโรคที่ต้องรีบรักษาครับ ไม่ใช่โรคเรื้อรัง หรือมาจากกรรมพันธ์ เพราะ ส่วนใหญ่จะเริ่มเป็นในช่วงวัยทำงาน หรือกลางคนที่ดูแล รักษาเข่าไม่ดี หรือผ่านการใช้งานมากเกินไป
การผ่าตัดปรับรูปร่างเข่า และขาให้ตรงด้วยเทคนิค MHTO ของนพ.สมศักดิ์ เหล่าวัฒนามีจุดเด่นตรงที่ ขนาดแผลที่เล็กลง เสียเลือดน้อย ใช้ระยะเวลาฟื้นตัวที่สั้นลง และเครื่องมือผ่าตัดที่ถูกออกแบบใหม่โดยนพ.สมศักดิ์ เหล่าวัฒนา
การผ่าตัดปรับรูปร่างเข่า และขาให้ตรงด้วยเทคนิค MHTO ของนพ.สมศักดิ์ เหล่าวัฒนา มีจุดเด่นตรงที่
1.Minimal invasive แผลผ่าตัดมีขนาดที่เล็กลง ประมาณ1-1.5 ซม.
2.Minimal blood loss เสียเลือดน้อยมาก จึงไม่จำเป็นต้องใส่สายระบายเลือดหลังผ่าตัด
3. Minimal surgical & recovery time ใช้ระยะเวลาผ่าตัดสั้นลง ฟื้นตัวเร็วขึ้น
4.minimal new designed surgical tools by Dr.Somsak เครื่องมือช่วยผ่าตัดใหม่ออกแบบโดยนพ.สมศักดิ์

แก้ไข ขาโก่ง เข่าชิด ด้วยวิธี MHTO Technique by Dr.Somsak’s ตอนที่ 2
ข้อเสียของการมีเข่าโก่ง ขาโก่ง เข่าฉิ่ง ขากาง มีหลายอย่างโดยเฉพาะทำให้โครงสร้างร่างกายที่ไม่สมดุล มีผลทำให้ข้อเข่า และหลังมีการกระเทือนมากกว่าปกติ มีผลทำให้เกิดอาการปวดเข่า และหลังตามมา เข่าที่มีอาการปวดแบบนี้ ถือว่าเป็นโรคที่ต้องรีบรักษาครับ ไม่ใช่โรคเรื้อรัง หรือมาจากกรรมพันธ์ เพราะ ส่วนใหญ่จะเริ่มเป็นในช่วงวัยทำงาน หรือกลางคนที่ดูแล รักษาเข่าไม่ดี หรือผ่านการใช้งานมากเกินไป
การผ่าตัดปรับรูปร่างเข่า และขาให้ตรงด้วยเทคนิค MHTO ของนพ.สมศักดิ์ เหล่าวัฒนามีจุดเด่นตรงที่ ขนาดแผลที่เล็กลง เสียเลือดน้อย ใช้ระยะเวลาฟื้นตัวที่สั้นลง และเครื่องมือผ่าตัดที่ถูกออกแบบใหม่โดยนพ.สมศักดิ์ เหล่าวัฒนา
การผ่าตัดปรับรูปร่างเข่า และขาให้ตรงด้วยเทคนิค MHTO ของนพ.สมศักดิ์ เหล่าวัฒนา มีจุดเด่นตรงที่
1.Minimal invasive แผลผ่าตัดมีขนาดที่เล็กลง ประมาณ1-1.5 ซม.
2.Minimal blood loss เสียเลือดน้อยมาก จึงไม่จำเป็นต้องใส่สายระบายเลือดหลังผ่าตัด
3. Minimal surgical & recovery time ใช้ระยะเวลาผ่าตัดสั้นลง ฟื้นตัวเร็วขึ้น
4.minimal new designed surgical tools by Dr.Somsak เครื่องมือช่วยผ่าตัดใหม่ออกแบบโดยนพ.สมศักดิ์

การผ่าเข่าโก่งแบบ MHTO ดีอย่างไร? ตอนที่ 1
ดิฉันเจ็บเข่าอยู่นานจึงทำให้ดิฉันต้องหาข้อมูลมาหลายปี และหลายหมอ จากหลายประเทศ หมอหลายท่านลงความเห็นตรงกันว่าต้องผ่าตัดจัดแนวกระดูก โดยคุณหมอสมศักดิ์ เหล่าวัฒนา เป็นหมอคนที่ 9 ที่ดิฉันได้ปรึกษา หลังจากประมวลผลข้อมูลที่ได้มาทั้งหมด จึงเห็นว่าวิธี MHTO ของคุณหมอสมศักดิ์ แตกต่างจากหมอท่านอื่น สุดท้ายดิฉันตัดสินใจบินมาจากรัสเซียเพื่อมาคุยกับคุณหมอสมศักดิ์ คุณหมอให้ความมั่นใจ และตอบข้อสงสัยได้ชัดเจน
พบคุณหมอที่รัสเซียและหมอหลายท่านที่ดิฉันปรึกษา
1. ต้องผ่าตัดมีโลหะอยู่ข้างใน
2. มีแผลใหญ่ประมาณ 5 นิ้ว ซึ่งผู้หญิงไม่ชอบเลยค่ะ
3. มีเข่าเสื่อมพร้อมกัน 2 ข้าง แต่หมอที่รัสเซียและหมอที่เมืองไทยท่านอื่นให้ทำทีละข้าง เราก็ต้องมีชีวิตที่ไม่สบายไม่เป็นปกติ ประมาณ 1-2 ปีติดต่อกัน เพราะว่าทำข้างหนึ่งแล้วอีก 6 เดือนถึง 1 ปี ถึงจะมาทำอีกข้างหนึ่งได้ กรณีของดิฉันเสื่อม 2 ข้างพร้อมกัน ดิฉันเกรงว่าถ้าผ่าไปแล้ว 1 ข้าง อีกข้างหนึ่งจะเสื่อมมากขึ้น เพราะฉนั้นพอเจอคุณหมอสมศักดิ์สิ่งที่แตกต่างจากที่อื่น คือ
พบคุณหมอสมศักดิ์ เหล่าวัฒนา
1. ทำ 2 ข้างพร้อมกัน
2. ไม่มีโลหะฝังข้างใน
3. แผลเกิดนิดเดียว
4. คุณหมออธิบายได้ชัดเจนจริงๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่มาพบ และมั่นใจ
คุณรติรัตน์ ไพรัตน์ (อายุ 48 ปี)
จากรัสเซีย

การผ่าเข่าโก่งแบบ MHTO ดีอย่างไร? ตอนที่ 2
1 ปีผ่านไปหลังจากผ่าตัดด้วยวิธี MHTO เหมือนได้เข่าใหม่โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนเข่า สามารถพาตัวเองเดินไปไหนมาไหนได้ รู้สึกดีใจมากที่คุณภาพชีวิตดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากเลยค่ะ

เข่าโก่งทั้งสองข้าง ตัดสินใจรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดแบบ MHTO
ปวดเข่าตั้งแต่อายุ 25 พึ่งรู้ว่าเข่าโก่ง จึงเลือกการผ่าตัด MHTO นอกจากจะหายปวดเข่าแล้ว ผมดีใจที่ได้เข่าสวยเป็นของแถมครับ

การแก้ไขเข่าโก่ง ขาโก่ง เข่ากาง ขากาง ด้วยวิธีผ่าตัด MHTO by Dr.Somsak ชุดที่ 1
เคสการแก้ไข เข่าโก่ง ขาโก่ง เข่ากาง ขากาง ด้วยวิธีผ่าตัด MHTO BY DR.SOMSAK

การผ่าตัดปรับรูปร่างเข่าให้ตรงขึ้นด้วยวิธี MHTO by Dr.Somsak ชุดที่ 2
ผ่าตัดปรับรูปร่างเข่าให้ตรงขึ้นด้วยวิธี MHTO by Dr.Somsak

ขาโก่ง เข่าโก่ง ข้อดีของการรักษาข้อเข่าเสื่อมแบบ MHTO
ข้อดีของการรักษาเข่าเสื่อมแบบ MHTO ดิฉันอายุ 71 ปี ผ่าเข่ามาแล้ว 3 ครั้ง ข้างนึงผ่าเปลี่ยนข้อเข่าเทียม 2 ครั้งข้างขวา แต่เข่ายังปวดและโก่ง อีกข้าง ผ่าแบบ MHTO ผ่าแล้วยังเป็นเข่าตัวเองอยู่ แถมตรงกว่าไม่ปวด ทำไมผลลัพธ์มันถึงแตกต่างกันเยอะเช่นนี้!!!!

เข่าโก่ง หรือ ขาโก่ง และ เข่ากาง หรือ ขากาง ในเด็ก ตอนที่ 1
การใส่รองเท้าที่ปรับโครงสร้างได้ เป็นการ รักษาเข่าโก่งในเด็ก วิธีใหม่ โดยการทำรองเท้า หรือพื้นรองเท้าปรับโครงสร้างทั้งระนาบ มุม และความยาวของขาเฉพาะกับเด็กคนนั้น สามารถทำตั้งแต่เด็กเริ่มหัดเดินเป็นต้นไป จนเข้าสู่วัยชรา

เข่าโก่ง หรือ ขาโก่ง และ เข่ากาง หรือ ขากาง ในเด็ก ตอนที่ 2
ปัญหาเด็กเข่าโก่งหรือขาโก่ง และ เข่ากางหรือขากางเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ซึ่งมีทั้งที่โก่ง กางแบบธรรมชาติ สามารถหายโก่ง หายกางได้เอง โดยไม่ต้องรักษา รูปร่างเข่าจะกลับมาตรงเองเมื่ออายุมากขึ้น แต่ก็มีที่เข่าโก่ง หรือกางมากและเป็นถาวรจนกระทั่งเข้าสู่วัยรุ่น ก่อก็ให้เกิดความไม่สวยงาม
อย่างไรเรียก ขาโก่ง เข่าโก่ง ขากาง หรือ เข่ากาง
เข่าโก่ง หรือ ขาโก่ง หมายถึง เวลาเรายืนตรง รูปร่างของขาสองข้างจะมีลักษณะโก่งออกเป็นรูปตัวโอ (O) โดยช่องว่างของเข่าสองข้างจะมากกว่า ช่องว่างของข้อเท้า โดยลูกบอลลูกเล็ก ๆ สามารถวิ่งรอดระหว่างขาได้เลยครับ
เข่ากาง หรือ ขากาง หมายถึง เวลาเรายืนตรง รูปร่างของขาสองข้างจะมีลักษณะเข่าชนกัน โดยเมื่อพิจารณาดูรูปร่างทั้งขาจะเหมือนตัว เอ็กซ์ (X)
รูปร่างเข่าที่ผิดปกติของเด็กจะมีผลเสียไหม ?
ปัญหาเด็กเข่าโก่งหรือขาโก่ง และ เข่ากาง หรือ ขากางเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ซึ่งมีทั้งที่โก่ง กางแบบธรรมชาติ สามารถหายโก่ง หายกางได้เอง โดยไม่ต้องรักษา รูปร่างเข่าจะกลับมาตรงเองเมื่ออายุมากขึ้น แต่ก็มีที่เข่าโก่ง หรือกางมากและเป็นถาวรจนกระทั่งเข้าสู่วัยรุ่น ก่อก็ให้เกิดความไม่สวยงาม ใส่กางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น หรือ กางเกงรัดรูปก็จะเห็นรูปร่างที่ผิดปกติได้ชัด ถ้ามีปัจจัยลบเสริมในด้านอื่น ๆ เช่น น้ำหนักเกิน กล้ามเนื้อหัวเข่าอ่อนแอ ก็จะทำให้ปวดเข่าง่าย อาจทำให้มีเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร และเร็วกว่าปกติ การดูแลและรักษาเข่าโก่งหรือ ขาโก่ง และ เข่ากาง หรือ ขากาง ตั้งแต่วัยเด็ก จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตและรูปร่างของขาหรือเข่าครับ
การเปลี่ยนแปลงของรูปร่างของขา หรือเข่าสองข้างในเด็กที่กำลังเจริญเติบโต
รูปร่างของขา หรือเข่าของเด็กนั้นไม่คงที่ตั้งแต่เด็กเกิดมาครับ จากการศึกษา เราพบว่า เด็กแรกเกิดขาหรือเข่าจะมีรูปร่างที่โก่ง ไม่ตรงก่อนครับ โดยเด็กแรกคลอดจะมีเข่าโก่งมากที่สุด มีมุมระหว่างกระดูกต้นขา และหน้าแข้ง (Tibiofemoral Angle) ที่เราเรียกว่า มุมเข่าโก่งในบางคนมากถึง 15 องศา แต่ข่าวดีก็คือ มุมเข่าโก่งนี้จะค่อย ๆ ลดลงเมื่อเด็กค่อย ๆ โตขึ้น
จนเมื่อเด็กอายุราว 2 ปี รูปร่างของขา หรือ เข่าก็จะดูตรงเป็นธรรมชาติ แต่เดี๋ยวก่อนครับ รูปร่างของขาเด็กยังไม่หยุดเปลี่ยนแปลงแค่นั้น เพราะหลังจาก 2 ขวบ ขาหรือเข่าของเด็กก็จะเริ่มกางขึ้น โดยจะค่อย ๆ กางออกมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเต็มที่เมื่อเด็กมีอายุราว 3 ขวบ โดยบางคนอาจจะมีมุมเข่ากางมากเท่ากับมุมเข่าโก่งตอนแรกคลอดก็ได้ครับคือ ที่ประมาณ 12-13 องศา
สุดท้ายเมื่อเด็กโตขึ้นอีกหน่อย รูปร่างของขา หรือเข่าที่กางนี้จะค่อย ๆ ลดลง กางน้อยลงเหลือไม่กี่องศาในช่วง 6-7 ปี จนมองเห็นเหมือนขาเด็กหรือเข่าเด็กจะมีรูปร่างตรงอีกครั้งหนึ่ง และขาหรือเข่าจะมีรูปร่างกางเล็กน้อยคงที่แบบนั้นจนกระทั่งเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ก่อนจะเริ่มมีเข่าโก่งอีกที ก็อาจจะมีอายุมากถึง 70 ปีไปแล้วเนื่องจากเป็นข้อเข่าเสื่อมครับ
พ่อแม่เด็ก ตลอดจนญาติผู้ใหญ่ที่มาช่วยเลี้ยงเด็กแทนพ่อแม่ยุคใหม่บางคนที่ไม่มีเวลา เมื่อเห็นลูกเข่าโก่งหรือขาโก่ง และ ขากางหรือเข่ากาง โดยที่ไม่ทราบพัฒนาการจากที่อธิบายดังกล่าวก็อาจจะมีความกังวล ว่า บุตรหลานของตัวเองที่มีรูปร่างขาที่งอผิดปกตินี้ถาวร ไม่ยอมหาย และจะเป็นมากขึ้น
ผมขอแนะนำให้จับหลักง่าย ๆ ตรงนี้ครับ ดูที่อายุเด็กก่อนนะครับ ถ้าไม่ถึง 2 ปี รูปร่างเข่าที่โก่งนั้นอาจจะเป็นรูปร่างที่ปกติได้ แต่ถ้าเด็ก อายุเกิน 2 ปี หรือใกล้ 2 ปี ยังดูเข่าโก่งมากอยู่ ก็ต้องรีบไปพบแพทย์เป็นการด่วนครับ
ถ้าอายุเกิน 2-3 ปี เด็กมีรูปร่างขาหรือเข่าที่กางออกมาก ๆ ก็ยังไม่ต้องกังวล รออีกปี สองปี รูปร่างขาก็อาจจะกลับมาตรงขึ้น กางน้อยลงแล้วรูปร่างขาก็จะกลับมาปกติได้
ไม่แน่ใจว่าลูกตัวเองรูปร่างขาปกติหรือไม่?
แต่สำหรับคนที่ไม่แน่ใจก็มีวิธีง่ายกว่านั้นครับ คือ พาเด็กไปพบคุณหมอกระดูกด้านนี้ และก็ต้องขอร้องไว้อย่างหนึ่งครับ พยายามอย่าไปขู่เด็กเวลาที่เด็กดื้อนะครับ ว่าเดี๋ยวให้หมอฉีดยา เพราะเด็กจะกลัวหมอมาก จนหมอตรวจเด็กไม่ได้ แตะต้องตัวไม่ได้เลย ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลจากการตรวจน้อยลง
ทำไม ? รูปร่างของเด็กถึงมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
มีการอธิบายหลายทฤษฎีครับ เช่น ทฤษฎีของแรงกดที่ตัวสร้างความยาวกระดูกหน้าแข้ง ในเด็กแรกคลอดทุกคนจะมีเข่าโก่งก่อน พอเริ่มจะหัดเดินในช่วงแรกที่ลงน้ำหนักเดินนั้น รูปร่างของเข่าก็จะโค้งออกด้านนอก ยิ่งเวลาเดินก็จะเห็นชัดมากขึ้น เพราะเข่าข้างเดียวจะต้องรับน้ำหนักทั้งตัว ทำให้ฐานของฝ่าเท้าทั้งสองข้างจะแคบลงครับ การเดินของเด็กก็จะไม่มั่นคง ดังนั้นในเด็กที่เริ่มจะหัดเดินใหม่ จึงพยายามเดินกางขาให้ระยะห่างของฝ่าเท้ากว้าง ๆ นัยว่าจะทำให้ มั่นคงกว่า ไม่ล้มง่าย ส่งผลให้แรงกดที่จุดที่สร้างความยาวกระดูกของขาด้านข้างมากกว่าด้านใน ทำให้จุดที่การสร้างกระดูกเข่า และขาให้ยาวขึ้นด้านในที่ไม่ถูกกดมากมีความอิสระมากกว่าสามารถสร้างความยาวได้ดีกว่า แน่นอนครับ ย่อมส่งผลให้มีรูปร่างของเข่าและขากางออกมากขึ้นเรื่อย ๆ จนอายุ 2 ปี รูปร่างทั้งขาก็จะดูตรง และหลังจากอายุ 2 ปี การสร้างความยาวของจุดที่สร้างยังคงเป็นแบบนี้อยู่อีกสักระยะเวลาหนึ่ง จึงส่งผลให้เข่า และขาเด็กเริ่มเข่ากางมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงอายุ 4 ปี
จนการสร้างความยาวของจุดที่สร้างของสองฝั่งของเข่าสมดุลกัน ตลอดจนกล้ามเนื้อของขาที่ใช้ในการเดินพัฒนามากขึ้น รูปร่างเข่าที่กางก็จะค่อยลดลง และ หลังอายุ 6-7 ปีมุมของหัวเข่าก็จะมีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก แต่พออายุ 25 ปี ถ้าดูแลสุขภาพเข่าไม่ดีพอ มนุษย์ก็จะมีเข่าโก่งเพิ่มขึ้นvและถ้าไม่ดูแลรักษาจนอายุมากขึ้น ก็อาจจะส่งผลทำให้มีเข่าโก่งก่อนวัย และมีอาการปวดเข่าง่าย เข่าเสื่อมง่ายได้ครับ
อีกทฤษฎีหนึ่ง เป็นเรื่องของแรงดึงของกล้ามเนื้อขาทั้งด้านในและด้านนอก เป็นทฤษฎีจากหมอกระดูกเด็กที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นอาจารย์ของผู้เขียนเอง โดยปัจจุบันท่านได้เกษียณตัวเองในการทำงานไปแล้ว (รองศาสตราจารย์ นพ.ไพรัช ประสงค์จีน) ท่านเชื่อในช่วงที่เด็กเริ่มหัดเดินใหม่ ๆ จะพยายามกางขาทั้งสองข้างให้ฐานของฝ่าเท้ากว้างขึ้นเพื่อความมั่นคง การทำแบบนั้นย่อมส่งผลทำให้กล้ามเนื้อที่ใช้ในการเดินด้านนอกออกแรงดึงกระดูกหัวเข่ามากกว่ากล้ามเนื้อขาและเข่าด้านใน ขณะที่เด็กกำลังยกขาออกก้าวเดิน และลงน้ำหนักเหยียบพื้นแต่ละข้าง จนทำให้เข่ากางออกมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ
พ่อแม่ของเด็ก ตลอดจนญาติผู้ใหญ่ที่มีความกังวล ว่า เด็กตัวน้อย ๆ จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เข่าโก่งหรือไม่ก็อาจจะจำเป็นที่ต้องพาเด็กมาให้หมอตรวจครับ โดยคุณหมอก็ตรวจสอบอายุ มีการวัดมุมของหัวเข่า ดูการเดินของเด็ก และอาจตรวจอย่างอื่นเพิ่มเติม บางคนก็จำเป็นต้อง X-Ray เพื่อดูรูปร่างของส่วนที่สร้างความยาวกระดูก ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ โดยเฉพาะในเด็กที่มีอายุเกิน 2 ปีไปแล้วที่เข่ายังโก่งอยู่ และอาจจะต้องมีการนัดตรวจทุก 6 เดือน จนกว่าเด็กจะมีรูปร่างของเข่าที่ปกติตามเกณฑ์ของอายุครับ
ในบางรายที่เป็นโรคเข่าโก่งตั้งแต่เล็ก ๆ ซึ่งมักจะเป็นในเด็กบางเชื้อชาติ และน้ำหนักตัวมาก ๆ ก็จำเป็นต้องแก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ ครับ อย่าไปรอนานเกินไป เพราะจะไม่ทันการณ์
RELATED ARTICLES
เข่าโก่ง หรือ ขาโก่ง และ เข่ากาง หรือ ขากาง ในเด็ก ตอนที่ 1
เข่าโก่ง หรือ ขาโก่ง และ เข่ากาง หรือ ขากาง ในเด็ก ตอนที่ 2

การผ่าตัดแก้ไข ขาโก่ง เข่าโก่ง เข่าเสื่อม ตอน 1
เมื่อพูดถึง ขาโก่ง เข่าโก่ง เข่าเสื่อม เข่าชิด หรือ เข่ารูปตัว X สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจก่อน คือ ข้อเสียของขาโก่ง เข่าโก่ง หรือ อาการเข่าที่ผิดปกติ เพราะหากปล่อยอาการขาโก่ง เข่าโก่ง ไว้นานวัน จะยิ่งรักษา แก้ไขได้ยาก โดย ข้อเสียของการมีขาโก่ง เข่าโก่ง มีดังนี้

การผ่าตัดแก้ไข ขาโก่ง เข่าโก่ง เข่าเสื่อม ตอน 2
การผ่าตัดแก้ไข ขาโก่ง เข่าโก่ง เข่าเสื่อม เข่าชิด หรือ เข่ารูปตัว X เราจะทราบได้อย่างไรว่า เมื่อไรที่ต้องเข้ารับการรักษา หรือ ผ่าตัดเข่า
เมื่อไหร่ต้อง ผ่าตัดเข่า ?
ส่วนข้อเข่าโก่งในคนอายุน้อยๆ (18-55ปี) ที่ถือว่าเป็นโรคที่ควรได้รับแก้ไขอย่างถูกต้อง และ ทันท่วงที จะต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้ครับ
1. มีความโก่งของเข่าทั้งสองข้างไม่เท่ากัน
เข่าที่โก่งไม่เท่ากันทำให้ขายาวไม่เท่ากันครับ เวลาเดิน ก็จะสังเกตเห็นการเดินตัวโยกเยก รองเท้าที่ใส่จะสึกที่ส้นไม่เท่ากัน เมื่อเดินโยกเยกมาก ๆ เวลาที่ต้องเดินไกล ๆ หรือ ยืนนาน ๆ ก็มักจะมีอาการปวดหลังเรื้อรังตามมา โดยไม่คิดว่า มาจากเข่าที่โก่งไม่เท่ากัน

การผ่าตัดแก้ไข ขาโก่ง เข่าโก่ง เข่าเสื่อม ตอน 3
ผ่าตัดเข่า เพื่อรักษาอาการเข่าโก่ง ขาโก่ง ในปัจจุบัน มีหลายวิธี
“วิธีผ่าตัดแก้ไขเข่าโก่ง หรือ ขาโก่ง แบบต่าง ๆ”
การแก้ไขข้อเข่าโก่งให้กลับมาตรงเหมือนปกติ Varus Knee Correction
ปัจจุบันการแก้ไขข้อเข่าโก่ง ที่ได้รับการยอมรับในทางการแพทย์ว่าได้ผลจริง มี แค่ 3 วิธีนี้เท่านั้นครับ
1. การเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ทั้งแบบเปลี่ยนเต็มข้อ และ ครึ่งข้อ (Knee Arthroplasty)
วิธีการแก้เข่าโก่งแบบนี้ เหมาะสมในคนสูงอายุที่มีข้อเข่าเสื่อมขั้นสุดท้ายที่แม้จะรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ จนครบถ้วนแล้วก็ตาม (กรุณาดูบทความ เรื่องการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมแนวใหม่แบบต่าง ๆ ของ นพ.สมศักดิ์ เหล่าวัฒนา) แต่อาการปวดเข่าเรื้อรังก็ไม่ทุเลาลง มีแนวโน้มว่า จะเดินไม่ได้

การผ่าตัดแก้ไข ขาโก่ง เข่าโก่ง เข่าเสื่อม ตอน 4
“การผ่าตัดดัดเข่าด้วยเทคนิคใหม่” (MHTO)
การผ่าตัดแก้ไขเข่าโก่ง ด้วยโลหะภายนอกแบบใหม่ (Modified HTO with New Charnley Clamp) เป็นวิธีผ่าตัดแก้เข่าโก่ง HTO ยึดด้วยโลหะจากด้านนอก เหมือนวิธีที่สามครับ แต่มีการพัฒนาและปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบางประการทำให้สามารถผ่าตัดในช่วงเวลาที่สั้นลงแผลผ่าตัดเล็กลง

การผ่าตัดแก้ไข ขาโก่ง เข่าโก่ง เข่าเสื่อม ตอน 5
การผ่าตัดดัดเข่าพร้อมกันสองข้างด้วยเทคนิคใหม่
ผู้ที่เข่าโก่งหลายท่านมีคำถามว่า สำหรับคนที่เข่าโก่งทั้งสองข้างตั้งแต่เด็กๆ จนเป็นผู้ใหญ่จะสามารถผ่าตัดแก้ไขทั้งสองข้างในคราวเดียวกันได้หรือไม่? และ จะมีข้อแตกต่างจากการผ่าตัดแก้ไขขาโก่ง? หรือเข่าโก่งทีละข้างอย่างไร?เเละข้อสำคัญเคยมีการผ่าตัดแก้ไขขาโก่ง และเข่าโก่งในคราวเดียวกันในประเทศไทยหรือไม่ ?


การผ่าตัดแก้ไขในคราวเดียวกันมีมานานแล้วครับแต่ในยุคสมัยก่อนนั้นมีการทำกันน้อยมากครับ เนื่องจากเทคนิค ตลอดจนเครื่องมือที่ใช้ก็ไม่ทันสมัยเท่าปัจจุบัน (ไม่มี X Ray Real time ที่สามารถวัดมุมอย่างแม่นยำ ตลอดจนเทคนิคใช้โลหะยึดด้านในตายตัว ไม่ใช่ Modified High tibia with Chanley Clamp techniqueที่มีโลหะยึดด้านนอก ทำให้ไม่สามารถแก้ไขมุมเมื่อเย็บแผลปิดแล้ว) ทำให้การผ่าตัดดัดเข่าให้ตรงได้มุมเข่าของขาทั้งสองข้างที่แตกต่างกันมากเกินไป




ข้อดีของ การผ่าตัดดัดเข่าพร้อมกันสองข้างด้วยเทคนิคใหม่ (MHTO)
การผ่าตัดดัดเข่าให้รูปร่างเข่าตรงขึ้นด้วยวิธี Modified High Tibial Osteotomy with Chanley Clamp นี้สามารถแก้ไข ขาที่โก่งสองข้างพร้อมกัน โดยมีข้อดีที่แตกต่างกันไป ดังนี้ครับ
1. การผ่าตัดแก้ไขขาโก่ง หรือเข่าโก่งสองข้างพร้อมกัน ฟื้นตัวเร็วกว่า (timing of recovery)
ในการผ่าตัดเเก้เข่าโก่ง หรือ ขาโก่งทีละข้างนั้น มักจะทำห่างกันประมาณสองถึงสามเดือนครับ ทำไมถึงต้องใช้เวลาถึงสองสามเดือนจึงจะสามารถกลับมารับการผ่าตัดแก้ไขอีกข้างได้ อธิบายได้ดังนี้ครับ
ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดแก้ไขเข่าโก่ง หลังการผ่าตัดจะสามารถงอเข่านั่งบนเก้าอี้และวางเท้าลงกับพื้นได้ในทันที เพราะการผ่าตัดชนิดนี้ไม่ได้ผ่าที่ข้อเข่าแต่ผ่ากระดูกใต้ข้อเข่าลงมา ข้อต่อเข่าที่เคลื่อนไหวจึงไม่ได้ถูกกระทบกระเทือน. สามารถงอและเหยียดเข่าได้เหมือนเดิม ก่อนผ่างอได้มากเท่าไหร่ หลังผ่าก็ยังเหมือนเดิมครับ อีกทั้งโลหะที่ยึดดามกระดูกด้านนอก(modified High Tibial Osteotomy with Charnley Clamp) มีความแข็งแรงมากพอที่เวลานั่งกระดูกตรงจุดที่ผ่าจะไม่กระทบกระเทือนหรือเคลื่อนไหว



ส่วนการผ่าตัดแก้เข่าโก่งสองข้ามในคราวเดียวกัน จะเสียเวลาในการฟื้นตัวน้อยกว่าหนึ่งเท่าครับ เพราะ กระดูกทั้งสองขาสามารถติดเชื่อมกันในคราวเดียวกัน ทำให้ได้เปรียบในเรื่องของเวลาในการกลับมาเดินหรือการฟืนตัวที่สั้นกว่าครับ
2. ข้อเเตกต่างในเรื่องการดูแลและการปฎิบัติตัวหลังผ่าตัด (The Difference of Caring)
หลังการผ่าตัดแก้ไขข้อเข่าโก่งทั้งสองข้างให้กลับมาตรงในคราวเดียวกัน ผู้ป่วยจะลงน้ำหนักเดินไม่ได้ชั่วคราว ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดจะต้องใช้รถเข็นเป็นเวลาสี่ถึงหกสัปดาห์โดยเฉลี่ย เหตุผลที่ผู้ป่วยไม่สามารถลงน้ำหนักเดินได้ทันที เพราะกระดูกขาทั้งสองข้างที่ได้รับผ่าตัดใหม่ๆยังไม่เชื่อมติดกัน จึงไม่แข็งแรงพอที่จะเดินลงน้ำหนักได้ ถึงแม้จะใช้ไม้เท้าช่วยก็ตาม ไม่เหมือนกับการผ่าตัดทีละข้างครับที่ยังคงมีขาข้างที่ดี ยังไม่ผ่ารับน้ำหนักตัวช่วยยันพื้นในการเดิน อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดสองข้างพร้อมก้น ยังคงนั่งแล้วงอเข่า เท้าวางบนพื้นได้ทั้งสองข้างได้ทันทีหฃังผ่าตัด เพราะมีโครงโลหะช่วยอยู่ เหมือนการผ่าตัดที่ละข้างครับ




ในบางคนที่ได้รับการผ่าตัดเเก้ไขข้อเข่าโก่งในคราวเดียวกัน อาจจะถอดโลหะออกไม่พร้อมกันนะครับเนื่องจากกระดูกที่ผ่าตัดเชื่อมกันสนิทไม่พร้อมกัน แต่เวลาก็ไม่ห่างกันมาก(ประมาณหนึ่งสัปดาห์)ครับ
3. ค่าใช้จ่าย การผ่าตัดแก้ไขข้อเข่าโก่งพร้อมกันสองข้าง (Cost)
ในการผ่าตัดแก้ไขข้อเข่าโก่งในคราวเดียวกันสองข้าง ค่าใช้จ่ายจะถูกกว่า ครับ เพราะการนอนพักรักษาตัวใช้เวลาเท่ากัน หรือ นานกว่าข้างเดียวกันไม่มาก (ปกติในการผ่าตัดแก้ไขเข่าโก่งข้างเดียวต้องนอนในโรงพยาบาลเป็นเวลา3-4วัน) อีกทั้งการผ่าตัดสองข้างพร้อมกันจะ ประหยัดเวลาที่ใช้ในห้องผ่าตัด และเครื่องมือที่ใช้ในการผ่าตัดด้วยครับ เนื่องจาก การคิดค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลเอกชนมักคิดชั่วโมงที่สองของการผ่าตัดถูกกว่าชั่วโมงแรก Set ผ่าตัดก็ใช้แค่Set เดียว ไม่ต้องเปดสองSets เมื่อมีการผ่าตัดทีละครัง



รูปร่าง
ตัวอย่างภาพผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดแก้ไขเข่าโก่งจาก การผ่าตัดแบบ MHTO ทั้งสองข้างพร้อมกัน
การผ่าตัดแก้ไขขาโก่ง เข่าโก่ง เข่าเสื่อม เข่าคด แบบ MHTO

ก่อน – หลัง การผ่าตัดแก้ไขขาโก่ง เข่าโก่ง เข่าเสื่อม เข่าคด แบบ MHTO

ก่อน – หลัง การผ่าตัดแก้ไขขาโก่ง เข่าโก่ง เข่าเสื่อม เข่าคด แบบ MHTO
หมายเหตุ : ภาพที่แสดงทั้งหมดเป็นภาพของผู้ป่วยของ นพ.สมศักดิ์ เหล่าวัฒนา
ตัวอย่างผู้ที่ผ่าตัดแก้ไขเข่าโก่งเข่าชิด
คุณรติรัตน์ ไพรัตน์ จาก ประเทศรัสเซีย ตอนที่ 1
คุณรติรัตน์ ไพรัตน์ จาก ประเทศรัสเซีย ตอนที่ 2
คุณณัชชาพัชร์ ปัญฎีกา
ตัวอย่างภาพผู้ที่ผ่าตัดแก้ไขเข่าโก่ง เข่าชิด
อัลบั้ม 1
อัลบั้ม 2
บทความที่เกี่ยวข้อง การผ่าตัดแก้ไข้ ขาโก่ง หรือ เข่าโก่ง (เข่าเสื่อม)
ตอนที่ 1 “ข้อเสีย”
ตอนที่ 2 “เมื่อไหร่ต้องผ่าตัดเข่า”
ตอนที่ 3 “วิธีผ่าตัดแก้ไขเข่าโก่ง หรือ ขาโก่ง แบบต่างๆ”
ตอนที่ 4 “การผ่าตัด ดัดเข่าด้วยเทคนิคใหม่”
ตอนที่ 5 “การผ่าตัดดัดเข่าพร้อมกันสองข้างด้วยเทคนิคใหม่”